5RNCPA7FA8D6 The Best Success Begins Here: The Best TRIPLE STEMCELL สเต็มเซลล์ผลิตภัณฑ์แห่งยุค 2013

วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

The Best TRIPLE STEMCELL สเต็มเซลล์ผลิตภัณฑ์แห่งยุค 2013


TRIPLE STEMCELL สเต็มเซลล์ผลิตภัณฑ์แห่งยุค 2013


  
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทริปเปิ้ล พีซี สเต็มเซลล์ สุขภาพแข็งแรง ผิวพรรณดี สายตาดี ต่อต้านอนุมูลอิสระ บทสรุปของสุขภาพที่ดีสำหรับคุณ

ประโยชน์ของ Triple Stemcell

     - เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุด
     - ลดการอักเสบและความเจ็บปวดจากข้อต่อ โรคข้ออักเสบ และกล้ามเนื้อ
     - ช่วยควบคุมความเป็นกรดในกระเพาอาหารให้เหมาะสม
     - เพื่อสุขภาพระบบประสาทไหลเวียนของหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น
     - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับและไตและการขับสารพิษในร่างกาย
     - ทำให้มีสุขภาพผิวพรรณที่ดี,ลดริ้วรอย
     - ช่วยให้ระบบสายตาดีขึ้น
     - ลดอาการโรคเกาต์
     - ปรับภาวะเบาหวาน
     - ปรับความดันโลหิตให้สมดุล
     - ลดไขมันในเลือด
     - เพิ่มปริมาณเม็ดโลหิตในร่างกาย
     - ช่วยระบบย่อยอาหารดีขึ้น
     - ลดอาการหอบหืดและภูมิแพ้
     - เพิ่มภูมิต้านทานในผู้ที่เป็นหวัด เจ็บป่วยบ่อย เหนื่อยง่ายและอ่อนแอ
     - ลดคลอเลสเตอรอล





อย.12-2-00129-1-0096
รหัสสินค้า : BT 0007
ราคาขาย : 2,900
ขนาดบรรจุ : 15 ซอง / กล่อง

สนใจร่วมธุรกิจ คลิก
................................................................................................................................................
สกัดจากผลไม้ต่างๆ

Apple  PhytoCellTecTM Solar Vitis  เป็นการสกัดไฟโตเซลล์เทคจากแอปเปิ้ลของสวิตเซอร์แลนด์พันธุ์ Uttwiler spattauber ซึ่งแอปเปิ้ลสายพันธุ์นี้พบมากในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งคือ มีความสามารถในการคงสภาพตัวเองได้นานกว่าผลไม้ชนิดอื่น 

งานนำเสนอ105-18

แต่มีข้อเสียคือ แอปเปิ้ลสายพันธุ์นี้มีรสเปรี้ยวจัด จึงไม่สามารถรับประทานสดได้ ต่อมาทีมนักวิทยาศาสตร์ Mibelle Biochemistry ของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ทำการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อด้วยนวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า PhytoCellTecTM ทำให้ได้ ไฟโตเซลล์เทคสกัดจากแอปเปิ้ลชนิดนี้

งานนำเสนอ105-14

Grape  PhytoCellTecTM Solar Vitis   เป็นการสกัดไฟโตเซลล์เทคจากองุ่นพันธุ์ Gamay ในฝรั่งเศส ซึ่งมีการค้นพบว่าองุ่นสายพันธุ์นี้มีสารต้านอนุมูลอิสระที่คุณภาพและประสิทธิภาพที่สูง และยังไม่เข้าไปทำลายสารอนุมูลอิสระที่มีหน้าที่ป้องกันรังสี UV ซึ่งจะช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดรอยเหี่ยวย่นและฟื้นฟูผิวชั้นนอกสุดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวพรรณของเราดูสดใส เปลั่งปลั่งตลอดเวลานั่นเอง

งานนำเสนอ105-20
งานนำเสนอ105-15

Tomato Phytocelltec  สารสกัดไฟโตเซลล์เทคจากมะเขือเทศ สกัดเอาไฟโตเซลล์เทคจากส่วนใบอ่อนของมะเขือเทศสายพันธุ์ Lycopersicon esculentum มาเพาะเลี้ยง เพื่อให้เพิ่มจำนวนได้หลายล้านเซลล์และสกัดสารสำคัญออกมา พบว่า สารสกัดไฟโตเซลล์เทคมะเขือเทศ สามารถทำงานฟื้นฟูผิวร่วงโรยได้ด้วยกลไกที่ครอบคลุม เพราะพบว่าประกอบด้วย ทั้งสารแอนตี้ออกซิแดนท์ช่วยต้านอนุมูลอิสระ สารช่วยป้องกันพิษจากโลหะหนัก ตะกั่ว นิคเกิล ในมลภาวะ จึงปกป้องเซลล์ ดีเอ็นเอ และ คลอลาเจนในผิวได้ดี รวมทั้งยังช่วยฟื้นฟูให้เซลล์ผิวสร้างคลอลาเจน และโปรตีนอายุวัฒนะ เซอร์ทูอิน ซึ่งช่วยยืดอายุเซลล์ผิวได้อีกด้วย เมื่อโครงสร้างโดยรวมของผิวแข็งแรงขึ้นผิวก็จะสามารถซ่อมแซมฟื้นฟูความร่วงโรยได้ดีขึ้น

งานนำเสนอ105-21

เบต้ากลูแคน (มาจากคำว่า β-Glucan อ่านว่า เบต้า-กลูแคน)  เป็นไฟเบอร์ชนิด Polysaccharide (เป็นสารประกอบน้ำตาลชนิดหลายโมเลกุล) สกัดได้จากผนังเซลล์ของยีสต์ สามารถพบได้ในอาหารจำพวก เห็ดหลินจือ ข้าวโอ๊ต ข้าวบาเลย์และยีสต์ เบต้ากลูแคนมีคุณสมบัติพิเศษในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน (Immune systm) และลดระดับคอเรสเตรอลในเลือด มีผลงานวิจัยกว่า 1000 ครั้ง จัดทำโดยมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น Harvard, Tulane, Baylor, McGill เพื่อพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของเบต้ากลูแคน และพบว่าเบต้ากลูแคนสามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้จริง จากการวิจัยพบว่าเมื่อเบต้ากลูแคนถูกดูดซึมผ่านทางลำไส้เข้าสู่ร่างกาย เบต้ากลูแคนจะไปกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า แมคโครฟาจ (Macrophages) และ นิวโตรฟิล (Neutrophils) โดยเซลล์ทั้ง 2 ชนิดมีหน้าที่ทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ เมื่อเซลล์ทั้ง 2 ถูกกระตุ้นโดยเบต้า-กลูแคน จะทำให้มันมีความสามารถในการฆ่าเซลล์มะเร็งและเพิ่มการฟื้นตัวของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เสียหาย

งานนำเสนอ105-23

ตัวอย่างผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Hardvard และ Tulane ประเทศ USA

1.Hardvard University (มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด)
       จากการวิจัยของ Dr.Joyce Czop พบว่าเซลล์เม็ดเลือดขาว Macrophage จะมีโมเลกุลหรือโครงสร้างที่สามารถจับกับเบต้ากลูแคนได้ บริเวณผิวของ Macrophage สามารถรับเบต้ากลูแคน 1,3 และ 1,6 ดังนี้นจึงทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันถูกกระตุ้นและสามารถทำหน้าที่ฆ่าสิ่งแปลกปลอมในร่างกายได้ดีขึ้น

2.Tulane University (มหาวิทยาลัยทูเลน)
       จากการวิจัยของ Dr.Patchen เรื่องการต่อต้านอนุมูลอิสระ (อนุมูลอิสระ คือต้นตอของปัญหาที่เลวร้ายในร่างกายคนเรา เช่นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง ความแก่ครับ)  พบว่าการฉีดเบต้ากลูแคนลงบนแผลที่เกิดจากมะเร็งเต้านม สามารถทำให้แผลหายได้อย่างน่าอัศจรรย์  Dr.Patchen ยังแนะนำอีกว่าเบต้ากลูแคนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันร่างกายจากสารพิษ รังสี และโลหะหนักต่างๆที่ได้รับจากการใช้ชีวิตประจำวัน

แอล-กลูต้าไธโอน L-Glutathione  เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ในทางการแพทย์พบว่ามีการนำแอล-กลูต้าไธโอนมาทดลองใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ซึ่งยังไม่ได้รับการอนุมัติข้อบ่งใช้จากองค์การอาหารและยา เช่น ภาวะเป็นหมันในเพศชาย ปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็งกระเพาะอาหาร หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก วิธีการรักษามักทำโดยการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำหรือเข้าที่กล้ามเนื้อ ผลข้างเคียงอย่างหนึ่งที่น่าแปลกใจ คือ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฉีดแอล-กลูตาไธโอนนั้นมีสีผิวที่ขาวขึ้น เนื่องมาจากแอล-กลูต้าไธโอนสามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) ได้ และส่งผลให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว

347559-50319-54

สารสกัดบิลเบอร์รี่ Bilberry Extract  ประกอบด้วยสารพฤษเคมีจำนวนมาก สาระสำคัญที่มีประโยชน์ คือ กลุ่มแอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides) ซึ่งพบได้ในพืชที่มีสีแดง ม่วง จนถึงน้ำเงิน แอนโธไซยาโนไซด์มีการทำงานคล้ายสารกลุ่มไบโอฟลาโวนอยด์ จึงให้ฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นและฤทธิ์ทางด้านอื่น
จากผลการวิเคราะห์และวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากหลายๆ ประเทศ เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี ได้ค้นพบว่าสารที่สำคัญในบิลเบอร์รี่ มีดังนี้

     1.แอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides) สามารถจับกับเซลล์บุผิว( pigmented epithelium) ที่จอภาพเรตินาได้ดี โดยมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ดีเลิศ (Anti-oxidant) ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ และคืนสภาพสาร rhodopsin ได้หลังจากถูกแสง จึงช่วยทำให้การมองเห็นในที่มืดได้ดี

     2.แทนนิน (Tannins) มีฤทธิ์ในการสมานแผล(Astingent) และให้ผลในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เช่น พวกแบคทีเรียบางชนิด

     3.ฟลาโวนอยด์(Flavonoid) ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant) เช่นกัน และยังเป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนหลายชนิดที่สำคัญต่อมนุษย์

     4.กลูโคควินิน(Glucoquinine) เป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้การทำงานของอินซูลิน ทำให้การควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น

งานนำเสนอ105-22

ประโยชน์ของสกัดจากบิลเบอร์รี่ต่อสุขภาพดวงตา

     1.ช่วยถนอมดวงตา ทำให้การมองเห็นในที่มืดดีขึ้น
     2.ช่วยรักษาอาการตาบอดกลางคืน ( Night blindness)
     3.ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา เมื่อใช้สายตานานๆ
     4.ช่วยป้องกันเลนส์ตาและช่วยให้คลอลาเจนในตาในส่วน cornea และหลอดเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น
     5.ช่วยลดอนุมูลอิสระในจอตา ทำให้ป้องกันอาการเสื่อมที่มักจะเกิดกับดวงตาให้น้อยลงได้ เช่น ต้อกระจก ต้อหิน ต้อเนื้อ ตาเสื่อมในคนสูงอายุ(สายตายาว)

สรรพคุณอื่นๆ ที่ค้นพบนอกจากนี้ คือ

     1.พบว่าสารแทนนิน ในผลบิลเบอร์รี่สามารถบรรเทาอาการท้องเสีย อาการคลื่นไส้ และภาวะอาหารไม่ย่อยได้
     2.พบว่าสารสกัดจากผลบิลเบอร์รี่  สามารถลดอาการปวดเจ็บจากภาวะเส้นเลือดขอด (Varicose vein)  ได้   เนื่องจากภาวะดังกล่าวเกิดจาก   ความเสื่อมของเซลล์เช่นกัน
     3.พบว่าสารสกัดจากผลบิลเบอร์รี่ สามารถใช้ลดอาการอักเสบในช่องปาก และเยื่อบุช่องปากได้
     4.พบว่าสารสกัดจากผลบิลเบอร์รี่ ช่วยลดอาการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ที่ทำให้เกิดจุดด่างดำของผิวพรรณได้
งานนำเสนอ105-19


E-mail : kobover@yahoo.com
ติดต่อสอบถาม โทร 088-5162312 {สุรีย์}

สนใจทำธุรกิจสุดฮอต คลิก

0 ความคิดเห็น:

ผู้สนับสนุน